ฆ้องวงเป็นเครื่องตีที่คิดประดิษฐ์สร้างให้มีวิวัฒนาการมาโดยลำดับ จากฆ้องเดี่ยว
ฆ้องคู่ และฆ้องราง ฆ้องวงใช้ต้นหวายโป่ง ทำเป็นร้านสูงประมาณ 24 เซนติเมตร หวายเส้นนอกกับเส้นใน ห่างกันประมาณ 14 - 17 เซนติเมตร ดัดโค้งไปเกือบรอบตัวคนนั่งตีเปิดช่องไว้สำหรับทางเข้าด้านหลังคนตี ห่างกันราว 20 – 30 เซนติเมตร ขนาดความกว้างจากขอบวงในทางซ้าย ไปถึงขอบวงในทางขวากว้าง ประมาณ 82 เซนติเมตร จากด้านหน้าไปด้านหลัง กว้างประมาณ 66 เซนติเมตร ให้คนนั่งตีนั่งขัดสมาธิ นั่งตีได้สบาย แล้วเจาะรูลูกฆ้อง ลูกละ 4 รู ใช้เชือกหนังผูกร้อยกับเรือนฆ้องให้ปุ่มของลูกฆ้องหงาย ขึ้นผูก เรียงลำดับขนาด ลูกต้นไปหาลูกยอดตั้งแต่ใหญ่ไปหาเล็ก เรียงลำดับเสียงจากต่ำไปหาสูง ฆ้องวงหนึ่ง มีจำนวน 16 ลูก ลูกต้นวัดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 17 เซนติเมตร อยู่ทางซ้ายมือด้านหลังผู้ตี ลูกยอดวัด ผ่านศูนย์กลางประมาณ 12 เซนติเมตร อยู่ทางขวามือด้านหลังผู้ตี และใช้ตีด้วย ไม้ตีทำด้วยแผ่นหนังดิบตัด ไม้ตีทำด้วยแผ่นหนังดิบตัดเป็นวงกลม เจาะกลางสอดไม้สำหรับมือถือ วงหนึ่งใช้ไม้ ตี 2 อัน ถือตีข้างละมือ |
ฆ้องวงใหญ่ใช้ต้นหวายดัดโค้งเป็นวงล้อมไปเกือบรอบตัว คนนั่นตีเรียกว่า "ร้าน" เปิดช่อง ไว้สำหรับเป็นทางเข้าด้านหลังคนตี ลูกฆ้องวงใหญ่มี 16 ลูกขนาดตั้งแต่ใหญ่ไปหาเล็ก เรียงลำดับ ตั้งแต่เสียง ต่ำไปหาเสียงสูง ฆ้องวงใหญ่ใช้บรรเลงทำนองหลักของเพลง ผู้ที่จะหัดปี่พาทย์ควรเริ่มหัดตีฆ้องวงใหญ่ก่อน เพื่อจะได้เป็นรากฐานทางดนตรีที่มั่นคง |
1. การบรรเลงฆ้องวง ผู้เล่นต้องนั่งให้ตรงกลางฆ้องวง วิธีการนั่ง นั่งได้ทั้งพับเพียบหรือขัดสมาธิ การจับไม้ ตีฆ้องวงผู้บรรเลงต้องรวบนิ้วกลางนิ้วนางและนิ้วก้อย กำไม้ฆ้องไว้กับฝ่ามือ ใช้นิ้วโป้ง และนิ้วชี้เป็น ตัวประคอง ให้นิ้วชี้ชิดกับหัวไม้
2. การเก็บไม้ตีฆ้อง ควรมีถุงใส่ หรือวางรวมกันไว้บนลูกฆ้อง ไม่ควรวางกับพื้น 3. การทำความสะอาด ควรใช้ผ้าแห้งหรือผ้าหมาดๆทำความสะอาด 4. ควรวางฆ้องวงให้ราบกับพื้น ไม่ควรวางหรือตั้งพิงไว้ข้างฝาผนัง เพราะอาจทำให้ฆ้องวงล้มอาจหักได้ 5. การยกฆ้องวง ไม่ควรยกเพียงคนเดียวเนื่องจากเป็นเครื่องตีที่มีน้ำหนักมากและขนาดใหญ่ ควรจะยกฆ้อง ให้ตั้งฉาก หรือขนานกับพื้น ห้ามกับด้าน |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น